Monday, August 24, 2020

พระอุปนิสัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช


พระอุปนิสัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช


So in love with Angelina Jolie's look from Alexander the Great ...

(ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/248260998184878394/)

        อเล็กซานเดอร์มหาราช หรือ Alexander the Great III แห่งมาซิดอน กษัตริย์แห่งมาซิโดเนีแคว้นใหญ่แคว้นหนึ่งตอนเหนือของประเทศกรีกโบราณ พระองค์ประสูติเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ปี 356 (ก่อนคริสตกาล) ณ เมืองเปลลา (Pella) นครรัฐมาซิโดเนีย มีพระวรกายสมบูรณ์ แข็งแรง สง่าผ่าเผย นอกจากนี้ในช่วงอายุระหว่าง 13 ถึง 16 ปี พระองค์ได้ทรงศึกษากับอริสโตเติล ผู้ที่ทำให้พระองค์สนใจวิชาปรัชญา การแพทย์ และวิทยาศาสตร

        บุคลิกภาพของอเล็กซานเดอร์นั้น ทรงมีความห้าวหาญ เด็ดขาด แต่ในอีกด้านหนึ่งค่อนข้างโมโหร้าย มีพระทัยร้อนและชอบชวนทะเลาะ เช่น คราวหนึ่งเมื่อยาตราทัพเข้าเอเชียไมเนอร์ (Asia minor) ขณะผ่านเมืองกอร์ดิอุม ก็ได้พบปมเชือกปริศนาตั้งไว้ให้ใคร ๆ ได้ปลดแก้ หากแก้ได้ก็จะเป็นผู้ได้รับชัยชนะและมีความรุ่งเรืองในชีวิต อเล็กซานเดอร์ได้ทรงพยายามแก้ปมเชือกปริศนา (Gordian knot) นั้น แต่ไม่อาจปลดแก้ได้ กริ้วมาก ถึงกับชักพระแสงดาบฟันปมเชือกขาดสะบั้น

        อย่างไรก็ตาม ทรงมีบุคลิกภาพที่ซับซ้อน (Multiplicity of Souls) คือมีทั้งร้อนและเย็น หยาบกระด้างและนุ่มนวลอย่างยิ่ง อันมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ใหญ่ให้เมตตา แม้กับพระมารดาแท้ ๆ ของศัตรูยังให้ความรักอเล็กซานเดอร์ดุจพระโอรส เรื่องมีอยู่ว่า ทรงสู้รบกับพระราชาดาริอุสแห่งเปอร์เซีย ซึ่งมีกองกำลังเหนือกว่าหลายเท่า แต่อเล็กซานเดอร์ก็ทรงเอาชนะจนได้ โดยยึดค่ายของดาริอุสไว้ทั้งหมด เป็นค่ายที่มั่งคั่ง อลังการ และแสนสมบูรณ์ คือมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายนานัปการ เช่นมีอ่างอาบน้ำทองคำ เป็นต้น รวมทั้งพระมารดานามว่าซิสซิแกมบิส และพระมเหสีสเตทีรา (Stateira) พร้อมกับเจ้าหญิงพระธิดาอีกหลายองค์ และนางในฮาเร็มจำนวนหนึ่งด้วย        

        แม้การประเมินชีวิตส่วนตัวนั้น จะทำให้ภาพลักษณ์ของพระองค์ดี หรือร้าย จะมีพระอุปนิสัยอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่พระองค์ได้สร้างสรรค์ขึ้น หรือมรดกตกทอดจากในช่วงชีวิตของพระองค์นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คน และต่อโลกในอีกหลายร้อยปีต่อมา 


เอกสารอ้างอิง

Jarus, Owen. (2017). Alexander the Great: Facts, Biography & Accomplishments. ค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2563จาก https://www.livescience.com/39997-alexander-the-great.html

Walbank, Frank. (2020). Alexander the Great. ค้นเมื่อ 24 สิงหาคม                                2563, จาก https://www.britannica.com/biography/Alexander-the-Great/Evaluation

ส.สีมา. (2018). อเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์กรีกเลือดร้อน-บุคลิกซับซ้อน. ค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2563จาก https://www.silpa-mag.com/history/article_38964

Monday, August 17, 2020

ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี

 ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี


                                (ที่มา : https://www.tripsinegypt.com/egypt-old-kingdom/)

1.ประวัติความเป็นมา

        ผลงานที่สำคัญของอาณาจักรบาบิโลน ได้แก่ ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (The Code of Hammurabi) โดยพระเจ้าฮัมมูราบี (Harmornurabi, 1742-1745 ปีก่อนคริสต์ศักราช) หลักการของกฎหมายมีรากฐานมาจากกฎหมายของพวกซูเมเรีย แต่ได้จัดให้เป็นระบบระเบียบ เป็นการสร้างความยุติธรรมให้แก่สังคม และ “ทำลายความชั่วร้ายเลวทราม ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นที่เข้มแข็งกว่ากดขี่ผู้ที่อ่อนแอกว่า ....” ประมวลกฎหมายของฮัมมูราบียึดถือหลัก“ ตาต่อตาฟันต่อฟัน” ในการลงโทษ กล่าวคือให้ใช้การทดแทนความผิดด้วยการกระทำอย่างเดียวกัน กฎหมายฮัมมูราบีจารึกในศีลาสีดำทรงกระบอกสูง ๒.๕๐ เมตรบนยอดหัวเสาสลักรูปเทพเจ้ามาร์ดุก (Marduk) กำลังประทานกฎหมายให้แก่พระเจ้าฮัมมูราบี ประมวลกฎหมายมีจำนวนกว่า 60 แถวรวมกัน 300 มาตรา ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีถือเป็นการรวบรวมกฎหมายใหม่ที่เรียกว่า มิชารัม (mitharun) แปลว่าการทำให้ถูกต้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขความอยุติธรรมต่าง ๆ ของกฎหมายเผ่า แม้จะได้ชื่อว่าเป็นกฎหมาย“ ตาต่อตาฟันต่อฟัน” แต่ก็มีบทลงโทษชนชั้นที่แตกต่างกัน ดังปรากฏข้อความว่า“ ถ้าเจ้าหน้าที่ทำลายลูกตาของสมาชิกชนชั้นขุนนาง เขาเหล่านั้นสามารถทำลายลูกตาของเจ้าหน้าที่ได้....ถ้าเขา(เจ้าหน้าที่) ทำลายลูกตาของสามัญชนหรือทำให้กระดูกหัก เขาผู้นั้นต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเหรียญมินา” อย่างไรก็ดี ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี ก็นับเป็นความพยายามที่จะสร้างระเบียบวินัยขึ้นในสังคมและขจัดความอยุติธรรมต่าง ๆ 

 2.ตัวบทกฎหมาย

        ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี ประกอบด้วย 282 มาตรา ซึ่งครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐและประชาชน เช่น กฎหมายด้านเศรษฐกิจ(ราคา, ภาษี และการค้า) กฎหมายครอบครัว(การสมรส และการหย่า) กฎหมายอาญา กฎหมายพลเมือง(ทาส และหนี้) ส่วนบทลงโทษนั้นจะสอดคล้องกับสถานะทางสังคม(ชนชั้น) นอกจากนี้ประมวลกฎหมายฮัมมูราบียังเป็นกฎหมายฉบับแรกที่คำนึงถึงสิทธิสตรีและให้สิทธิเธอในการฟ้องหย่าสามีได้


เอกสารอ้างอิง

สัญชัย สุวังบุตรและคณะ. (2012). ประวัติศาสตร์สากล ม.4-6. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์.

Biography.com. (2019). Hammurabi. ค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2563จาก 

            https://www.biography.com/political-figure/hammurabi

Augustyn, Adam. (2020). Code of Hammurabi. ค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2563จาก
https://www.britannica.com/topic/Code-of-Hammurabi


Monday, August 10, 2020

ยุคอาณาจักรเก่า (The Old Kingdom )

ยุคอาณาจักรเก่า (The Old Kingdom )

Egypt Old Kingdom Facts - Egypt Old Kingdom Dynasties & Phataohs

    ยุคอาณาจักรเก่า คือยุคหนึ่งของประวัติศาสตร์อารยธรรมอียิปต์ ซึ่งตรงกับช่วงระหว่างปี 2575 ถึง 2450 ก่อนศริสตกาล โดยในช่วงระยะเวลากว่า 400 ปีนี้ คือยุคที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักมากที่สุดยุคหนึ่ง เนื่องจากเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรื่องทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม และกินเวลาช่วงระหว่างราชวงศ์ที่ 4 ถึงราชวงศ์ที่ 6
    ในยุคนี้มีการแบ่งออกเป็นสามชนชั้น คือ ชนชั้นสูงได้แก่ เชื้อพระวงศ์ นักบวช ขุนนาง ชนชั้นกลางได้แก่ พ่อค้า เสมียน ช่างฝีมือ และชนชั้นล่างคือพวกชาวนาและผู้ใช้แรงงาน และนอกจากฟาโรห์แล้ว บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดคือหัวหน้านักบวชของสุริยเทพ รา ซึ่งเป็นจอมเทพสูงสุด
    ชาวอียิปต์โบราณดำรงค์ชีวิตด้วยการกสิกรรม โดยเฉพาะในเขตที่ราบน้ำท่วมถึงหรือที่เรียกว่าเขตดินสีดำที่ชื่อว่า เคเมต เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ การเพาะปลูกได้ผลดี พืชที่นิยมปลูกกันคือข้าวสาลีและข้าวบาเล่ย์ ชาวอียิปต์ยังทำการจับปลา ล่านกน้ำและฮิปโปโปเตมัสในแม่น้ำไนล์โดยใช้เรือที่ผูกจากต้นกก ส่วนในเขตดินสีแดงที่เรียกว่า เชเครต ซึ่ง อยู่ในเขตอียิปต์บนพวกเขาจะทำการล่าสัตว์ป่าอย่าง แอนทีโลป และแพะป่า ซึ่งมีอยู่มากมาย
    ในด้านประดิษฐกรรม ชาวอียิปต์มีการประดิษฐ์อักษรภาพที่เรียก ว่าเฮียโรกลิฟฟิค (Hieroglyphic) ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นรูปภาพและแบบที่เป็นสัญลักษณ์ประกอบเป็นคำ โดยจะบันทึกลงในแผ่นหินและม้วนกระดาษปาปิรัสซึ่งทำจากต้นกก นอกจากนี้ที่มีความสำคัญมากคือ มีการทำมัมมี่ซึ่งถูกทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่ 4 และมีเรื่อยมาจนถึงค.ศ.641 ชาวอียิปต์เชื่อว่าหลังจากที่มนุษย์ ตายไปแล้วดวงวิญญาณจะกลับมาเกิดใหม่ในร่างเดิมจึงต้องเก็บร่างเอาไว้เพื่อรอรับการเกิดใหม่ในยุค อาณาจักรเก่าเชื่อว่ามีเพียงฟาโรห์เท่านั้นที่จะกลับมาคืน ร่างเดิมแต่ในสมัยต่อมาการทำมัมมี่ได้แพร่หลายสู่ขุนนางและสามัญชนแม้กระทั่งสัตว์ที่เป็นสัญลักณ์ของเทพ
    ชาวอียิปต์มีความเชื่อแบบพหุเทวนิยม อยู่ โดยมี เทพเจ้ารา (RA) เป็นเทพสูงสุด ชาวอียิปต์เชื่อว่าพระองค์เป็นผู้สร้างโลกและสวรรค์รวมทั้งสิ่งมีชีวิตทั้งปวง นอกจากเทพเจ้าราแล้ว เทพที่ชาวอียิปต์นับถือกันมากได้แก่ เทพเจ้าโอซิริส เทพแห่งยมโลกผู้มีหน้าที่ตัดสินดวงวิญญาณ, เทพีไอซิสเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์, เทพเจ้าเซ็ท เทพแห่งสงคราม, เทพีฮาธอร์เทพีแห่งความรัก และเทพเจ้าฮอรัส เทพผู้เป็นตัวแทนของฟาโรห์ทุกพระองค์ นอกจากนี้ยังมีเทพอื่น ๆ ที่ถือเป็นเทพเจ้าประจำแต่ละเมือง
    การล่มสลายของอาณาจักรเก่า เกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์ที่ 6 ซึ่งเหล่าผู้ปกครองเริ่มมีอำนาจมากและท้าทายอำนาจของฟาโรห์ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นได้เกิดภัยธรรมชาติ เกิดความแห้งแล้งและอดอยากไปทั่ว สุดท้ายด้วยวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเมืองก็ทำให้อาณาจักรเก่าล่มสลาย กลายเป็นรัฐอิสระ 7 รัฐ 
    
เอกสารอ้างอิง

โอเชียนสไมล์ทัวร์. (2020). ประวัติศาสตร์อียิปต์. ค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2563, จาก
    http://www.oceansmile.com/Egypt/EpOld.htm

Mark, J. (2016). Old Kingdom of Egypt. ค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2563จาก 
    https://www.ancient.eu/Old_Kingdom_of_Egypt/

Ducksters. (2020). Old Kingdom. ค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2563จาก
    https://www.ducksters.com/history/ancient_egypt/old_kingdom.php


 


Monday, August 3, 2020

สวัสดีครับ กระผมนายอัษฎา ชารินทร์ ขอต้อนรับเข้าสู่การท่องโลกอารยธรรม

สตาลินกับการสร้างระบอบเผด็จการในสหภาพโซเวียต 1. ชีวประวัติโดยย่อ โจเซฟ สตาลิน (รัสเซีย: Иосиф Виссарионович Сталин ; อังกฤษ: Joseph S...